เหตุการณ์ 26 กุมภาพันธ์,
อุบัติการณ์ 26 กุมภาพันธ์ หรือยังเป็นที่รู้จักกันคือ
กรณี 2-26 (
ญี่ปุ่น: 二・二六事件;
โรมาจิ: Ni Ni-Roku Jiken) เป็นความพยายามก่อรัฐประหารโดยกลุ่มทหารหนุ่มสาย
โคโดฮะ ของ
กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 1936 เพื่อโค่นล้มรัฐบาลและกลุ่มทหารสายโทเซฮะ และวางแผนเพื่อสังหารนักการเมืองชนชั้นสูงในจักรวรรดิญี่ปุ่นบางส่วนการกบฎมีสาเหตุขึ้นจากกลุ่มนายทหารวัยหนุ่มได้มารวมตัวกันเพื่อวางแผน
การฟื้นฟูโชวะ เพื่อถวายคืนอำนาจแด่
สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น โดยมีการประชุมวางแผนการก่อกบฎตั้งแต่วันที่ 18-22 กุมภาพันธ์ และได้เลือกทำการสังหารเป้าหมายบางส่วนที่พวกเขามองว่าขัดต่อ "อุดมคติของชาติ"
[3] โดยเป้าหมายการสังหารส่วนใหญ่เคยมีส่วนร่วมใน
สนธิสัญญาว่าด้วยการจำกัดและการลดอาวุธทางรัฐนาวี หลัง
สงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง และหลังจากนั้นได้มีการก่อตั้ง "กองทัพผู้ชอบธรรม" (
ญี่ปุ่น: 義軍;
โรมาจิ: Gi-gun) ก่อนการก่อการไม่นาน และชูคำขวัญ "เทอดทูนจักรพรรดิ ขับไล่ทรราชย์" (
ญี่ปุ่น: 尊皇討奸;
โรมาจิ: Sonnō Tōkan)การก่อกบฎเกิดขึ้นในกรุง
โตเกียวเป็นเวลาสองถึงสามวัน โดยมีการโจมตีสถานที่สำคัญทางการเมืองหลายแห่ง เช่น บ้านพักนายกรัฐมนตรี
โอคาดะ เคสุเกะ แต่รอดชีวิตมาได้, ที่ทำการหนังสือพิมพ์
อาซาฮีชิมบุน, ที่ทำการ
กระทรวงการสงคราม และมีการสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีจักรวรรดิญี่ปุ่น 2 คน ได้แก่
ทากาฮาชิ โคเรกิโยะ และ
ไซโต มาโกโตะ รวมไปถึงมีความพยายามในการควบคุม
พระราชวังหลวงโตเกียวเช่นกันรัฐบาลจักรวรรดิญี่ปุ่นจึงทำการปราบปราม โดยรัฐมนตรีกระทรวงสงคราม
โยชิยุกิ คาวาชิมะ ได้เข้าพบกับจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดิออกคำสั่งปราบปรามอย่างเด็ดขาดที่สุด มีการออกประกาศสภาวะฉุกเฉินและกฎอัยการศึก และทำการปราบปรามกลุ่มกองทัพผู้ชอบธรรม จนกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นได้ชัยชนะอย่างเด็ดขาด ผู้นำของกลุ่มถูกจับกุมและตัดสินประหารชีวิตในฐานะกบฎต่อแผ่นดินอุบัติการณ์ 26 กุมภาพันธ์ เป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่มีการสังหาร
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์
การลอบสังหารชินโซ อาเบะ ในปี 2022